วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

http://modtanoy.ayidbooks.hop.clickbank.net/

สวนหิน

           สวนหิน Rock garden เป็นสวนที่ใช้หินและกรวดเป็นองค์ประกอบหลักในการจัด โดยเลือกใช้ความหลากหลายจาก ลักษณะและชนิดของหิน ที่แตกต่างกันทั้งสี รูปร่าง และผิวสัมผัส จากนั้นก็นำต้นไม้ มาปลูกประกอบ ให้มีความสัมพันธ์และกลมกลืน กับหินที่เรา จัดวาง อาจจะจัดบนพื้นที่ราบเรียบ หรือเป็นชั้นเป็นเนินก็แล้วแต่นักออกแบบจะสร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งแนวคิดนี้ ก็คงหนีไม่พ้นจาก การนำรูปแบบธรรมชาติ เช่น โขดหิน เนินเขา เกาะแก่ง ลำธาร หรือน้ำตก ถอดถ่ายจำลอง เอามาจัดวาง ให้เหมาะสมกับสถานที่ ที่เราจะจัดอาจวางหินรูปตั้งบ้าง นอนบ้าง ก็แล้วแต่ความเหมาะสม จากนั้นก็นำต้นไม้ มาจัดประกอบ หรืออาจมีวัสดุอื่น ๆ อีก ก็แล้วแต่ ความต้องการ บางกรณีสถานที่อาจจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีอยู่แล้ว เช่น บ้านพักในชนบทที่ติดกับเขา และธรรมชาติดังกล่าว นักออกแบบสวน อาจจัดบริเวณให้สอดคล้องไปกับธรรมชาติรอบด้าน เช่น หักร้างถางพงเคลียร์พื้นที่รอบ ๆ บริเวณที่พัก คงสภาพหิน หินหรือเนิน ที่เป็นธรรมชาติเอาไว้ และนำต้นไม้ไปแต่งประกอบ แต่อย่างไรก็ต้องคงสภาพของเดิม ตามธรรมชาติ เอาไว้ ซึ่งก็จะเป็นอีกรูปหนึ่ง ลักษณะสวนหินนี้ก็นิยมทางประเทศแถบยุโรปมาก่อนเรียกว่า Rock Garden สร้างความรู้สึก ให้เห็นถึง ความเป็นปึกแผ่นมีพลังสนุกสนาน ทางแถบเอเชีย จีน และญี่ปุ่นก็นิยมจัดเช่นกัน โดยเฉพาะ สวนหินของญี่ปุ่น ซึ่งมักจะเรียกกันว่า Stone Garden ลักษณะสวนหินของญี่ปุ่นจะเป็นลักษณะพิเศษคือ นอกจากสวนหิน ที่เป็นลักษณะ ลอกเลียนธรรมชาติ แล้วยังมี สวนหินที่เป็น ลักษณะจินตนาการ ให้ผู้รับได้ใช้ฝึกสมาธิตามลัทธิเซน จะเป็นการจัดในพื้นราบจัดวางหินเป็นกลุ่มเป็นก้อน สมมุติแทนโขดเขาและเกาะแก่ง มีกรวดล้อมรอบ ทำ ริ้วรอยลวดลาย คล้ายสายน้ำและคลื่น สวนหินลักษณะนี้ จะไม่นิยมใช้ต้นไม้ มาประกอบเลย จะดูนิ่งให้ใช้ฝึกสมาธิได้เต็มที่








การจัดสวนในพื้นที่จำกัด





จัดสวนหย่อมภายในบ้าน




         ลองหาต้นไม้สวยๆ มาตกแต่งมุมโปรดของคุณดูสิครับ แล้วหากมีที่ว่างอีกสักหน่อยก็เติมที่นั่งดื่มน้ำชากาแฟไว้ แล้วคุณจะรักที่ที่เคยว่างเปล่าตรงนั้นขึ้นอีกเยอะเลยครับ ต้นไม้ที่จะใช้จัดนั้นก็หากเป็นมุมนอกบ้านก็สามารถ เลือกต้นไม้ได้ทุกชนิดที่ชอบ เพราะต้นไม้ของคุณจะสามารถ ได้รับแสงแดดเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป็นสวนหย่อมที่อยู่ในบ้าน และเป็นมุมที่ไม่โดนแสงแดด ก็ขอแนะนำให้ใช้ต้นไม้ที่ต้องการแสงน้อยอย่างเช่นพวกว่านๆ ต่างๆครับ และควรหมั่นนำออกไปรับแสงแดด สักอาทิตย์ละหนึ่งครั้งจะดีมาก เช่นตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมเค้าจะใช้วิธี ปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกันที่ใช้ไว้เกินจำนวนที่จะนำไปจัดสวนในร่มแล้วจะสลับสับเปลี่ยนกันออกมา รับแสงแดดครับ ลองจัดสวนในสไตล์ของคุณดูนะครับ รับรองว่าที่ที่เคยไม่มีใครเหลียวแล จะกลับกลายเป็นมุมโปรด ที่ใครๆ ก็ต้องอดใจมาใช้เวลาอยู่กับมันไม่ได้





วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บ้านเดี่ยว

ที่มา http://www.baanlaesuan.com


รู้สึก นึก คิด


เมื่อถึงช่วงวัยและวันหนึ่ง เราจะรู้ว่าเราต้องการอะไรและอะไรเป็นส่วนเกินของชีวิต

ผมยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของบ้านหลังนี้ เป็นระเบียงที่เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหารและครัวของบ้าน เมื่อมองไปรอบตัวก็พบว่าบ้านหลังนี้รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่เดิม สายลมพัดมาพอให้หายร้อน แม้แดดจะแรงแต่ผมคิดว่าเป็นการดีและเหมาะสม เหมือนช่วงหนึ่งของวันที่ต้องการแสงแดดอย่างเพียงพอ

บ้านเป็นเหมือนสิ่งที่แสดงตัวตนของผู้อยู่อาศัยและผู้ออกแบบได้ชัดเจนที่สุด เมื่อถึงวันหนึ่งที่ชีวิตต้องมีการขยับขยาย ครอบครัวใหม่ คู่ชีวิต และบ้านสักหลัง คุณกึ๋น – กศินร์ ศรศรี สถาปนิกของ Volume Matrix Co.,Ltd และคุณไมโกะ อิชิโมโต ภรรยาชาวญี่ปุ่นได้ตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกันที่เมืองไทย และลงมือออกแบบบ้านของตัวเองด้วยความตั้งใจ การออกแบบบ้านสำหรับสองวัฒนธรรมจึงเกิดขึ้น ดูเหมือนเป็นเรื่องยากที่จะผสมทั้งสองสิ่งนี้ แต่ทุกอย่างนั้นเป็นไปได้หากเราพูดคุยกันถึงความต้องการและความเป็นอยู่ที่ผ่านมาของแต่ละคนด้วยความเข้าใจ

“ถ้าสังเกตเราจะรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นผสมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชั้นหนึ่งซึ่งเป็นใต้ถุนโล่ง สามารถมานั่งพักผ่อนบนชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์ญี่ปุ่น ฉากหลังเป็นระแนงไม้ซี่บางประกอบกันเป็นตาราง บวกกับด้านข้างเป็นพื้นที่ลดระดับลงไปและโรยกรวด ส่วนชั้นสองของบ้านมีห้องญี่ปุ่นขนาด 7 เสื่อทาทามิ แต่เราก็คำนึงถึงการใช้งานสะดวกด้วย จึงออกแบบให้พื้นบางส่วนเป็นคอนกรีต เพราะทำความสะอาดง่ายกว่าพื้นเสื่อ นอกจากนี้ผมยังออกแบบห้องเผื่อไว้สำหรับญาติของไมโกะซึ่งมาจากญี่ปุ่นด้วย มาทีหนึ่งก็หลายคน บางห้องจึงเป็นเพียงห้องว่างเปล่า มีห้องน้ำในตัว”

ตัวบ้านตั้งอยู่บนถนนจันทร์ ย่านพระรามที่ 3 เมื่อเข้ามาภายในซอยเล็กๆที่เหมือนแยกออกมาเพื่อความสงบเงียบ ก็จะพบบ้านหลังนี้ ที่ผ่านมาคุณกึ๋นมักออกแบบบ้านตามความต้องการของคนอื่น พอมีโอกาสได้ออกแบบบ้านของตัวเอง ความคิดและความต้องการต่างๆจึงถ่ายทอดมาสู่งานสถาปัตยกรรมอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

“ผมเริ่มโดยการใช้ความ ‘รู้สึก’ ก่อนว่าบ้านของเราควรจะเป็นอย่างไร ใช้ประสบการณ์ที่มีจินตนาการถึงบ้านในฝันของเรา เมื่อได้ภาพคร่าวๆในหัวแล้ว ผมก็จะมา ‘นึก’ ถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง ทั้งเรื่องของพื้นที่ งบประมาณ และความต้องการเบื้องต้น สุดท้ายผมก็จะเริ่ม ‘คิด’ ถึงรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับบ้านหลังนี้ เป็นรายละเอียดที่ส่งเสริมทั้งในเรื่องของการใช้งานและความสวยงาม”

พื้นที่ก่อสร้างบ้านมีขนาดประมาณ 40 ตารางวา อยู่ในที่ดินเดิมซึ่งมีบ้านของครอบครัวหลังเล็กๆอยู่ 4 หลัง เดิมมีสวนมะม่วงโดยรอบ เมื่อมีการออกแบบบ้านหลังใหม่ คุณกึ๋นก็เลือกที่จะเก็บพื้นที่สวนไว้ให้มากที่สุดและไม่มีการตัดต้นไม้ใหญ่ออกเลย บ้านหลังนี้สร้างชิดกับรั้วบริเวณทางเข้าบ้าน นอกจากจะรบกวนพื้นที่สวนน้อยแล้ว บ้านสูงสามชั้นหลังนี้ยังเป็นเหมือนรั้วสูงที่คอยบังมุมมองจากภายนอกซึ่งล้อมไปด้วยอาคารสูง 3 – 4 ชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นอีกด้วย

ส่วนองค์ประกอบต่างๆของบ้านออกแบบให้มีความนอบน้อมและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ เจ้าของบ้านต้องการให้บ้านดูเรียบง่าย ชัดเจน และไม่ซับซ้อน โครงสร้างที่ใช้จึงเป็นระบบเสาคานและพยายามให้ความหนาของคานมีขนาดเท่ากันหมด เพื่อประหยัดค่าไม้แบบที่จะต้องใช้มากขึ้นหากมีขนาดของคานไม่เท่ากัน พื้นใช้คอนกรีตสำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นส่วนที่เป็นห้องน้ำ ระเบียง และดาดฟ้าซึ่งจะเป็นพื้นคอนกรีตหล่อในที่ ส่วนผนังเลือกใช้วิธีขัดมัน เพื่อความสะดวกในการทำงาน เหมาะกับสภาพแวดล้อม ไม่ซับซ้อน และเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในประเทศ

“ผมเลือกใช้อิฐมวลเบามาก่อเป็นผนังแทนอิฐมอญทั่วไป เพราะก่อสร้างได้เร็วกว่า น้ำหนักเบากว่า ช่วยลดน้ำหนักของตัวบ้าน แถมยังช่วยกันความร้อนได้ดีกว่าด้วย ส่วนกระจกที่ใช้เป็นกระจกใสธรรมดา ไม่ใช่กระจกตัดแสง เพื่อให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง แต่จะมีการออกแบบครีบรอบบานกระจกเป็นกล่อง เพื่อช่วยบังแสงแดดไม่ให้เข้ามามากเกินไป แถมครีบเหล่านี้ยังเป็นเหมือนท่อดูดลมให้เข้ามาภายในบ้านมากขึ้นด้วย บ้านจึงเย็นสบายเพียงแค่เปิดประตูหน้าต่าง ในส่วนที่เป็นผนังคอนกรีตขัดมันจะผสมสีดำเข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้สีเทาของคอนกรีตนั้นเข้มขึ้น ดูแตกต่างจากงานคอนกรีตทำผิวขัดมันแบบทั่วไปที่เคยเห็นกัน แถมยังดูกลมกลืนกับสีของลำต้นมะม่วงด้วย”

คุณกึ๋นชี้ให้เห็นถึงรายละเอียดบางอย่างของบ้าน เช่น ผนังคอนกรีตที่ใช้ไม้เทียมซึ่งมีลวดลายไม้อยู่แล้วมาประทับเมื่อตอนที่คอนกรีตกำลังเซ็ตตัว ก็จะได้ลายไม้ตามต้องการ และบางส่วนของผนังภายนอกก็ลดความซ้ำโดยการสลับจากผิวขัดมันมาเป็นการสลัดปูนเพื่อเพิ่มความขรุขระ ทำให้ตัวบ้านดูสมจริงและมีรายละเอียดน่าสนใจมากขึ้น

ความจริงแล้วการอยู่ร่วมกันนั้นไม่ยาก ภาษาและวัฒนธรรมเป็นสิ่งเล็กน้อยหากเทียบกับหลายๆสิ่ง สุดท้ายคนเราก็ต้องกิน นอน ทำงาน และพักผ่อนเหมือนๆกัน ความรักความเข้าใจกันมากกว่าที่เราควรจะออกแบบให้เกิดความลงตัวมากที่สุด

เมื่อถึงช่วงวัยและวันหนึ่ง เราจะรู้ว่าเราต้องการอะไรและอะไรเป็นส่วนเกินของชีวิต… จะเรียกว่าความพอดีของชีวิตก็คงได้
ขอให้คุณผู้อ่านพบชีวิตในช่วงนั้นเร็วๆนะครับ

เรื่อง : “เอกราช ลักษณสัมฤทธิ์”
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตลิสต์ : ภควดี พะหุโล
เจ้าของ : คุณกศินร์ ศรศรี และคุณไมโกะ อิชิโมโต
ออกแบบ : คุณกศินร์ ศรศรี